วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561
ข่าว 8
วิธีกำจัดปลวก จากของธรรมชาติไร้สารเคมีปลอดภัย ด้วยใบขี้เหล็ก
ในใบขี้เหล็กมีสารกลุ่มโครโมน ซึ่งมีฤทธิ์คลายเครียดและช่วยให้นอนหลับ และกลุ่ม anthraquinones ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยให้ถ่ายหรือระบายท้อง เช่น แอนโทรน และไดแอนโทรน เมื่อนำมากำจัดปลวกได้ผลดีมาก ผลจากการทดลองนำใบขี้เหล็กมาตำคั้นเอาน้ำให้น้ำเขียวข้น เอาน้ำฉีดใส่ปลวก 20 ตัว ผลปรากฏว่าปลวกตายหมดภายใน 1 นาทีวิธีไล่ปลวก อีกหนึ่งวิธีนำใบขี้เหล็กมาผสมกับแป้งดินสอพอง ปั้นให้เป็นก้อน ผึ่งแดดให้แห้ง เวลาจะใช้ก็ทุบ ให้เป็นผงแล้วนำไปโรยบริเวณรังปลวก ติดตามดูผลการทดลอง 30 วัน ปรากฏว่าปลวกย้ายรังหนีไปที่อื่น แสดงว่าแป้งสมุนไพรจากใบขี้เหล็กสามารถไล่ปลวกให้ไปที่อื่น และไม่กลับมาทำรังที่เดิมอีกถือเป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดปลวกด้วยธรรมชาติ วิธีกำจัดปลวกที่คุณทุกคนจะต้องรู้เอาไว้ เผื่อฉุกเฉินเจอปลวก และปลอดภัยไร้สารพิษ
ข่าว 7
4 อาชีพเสี่ยง "โรคผิวหนังจากสารเคมี"
อาชีพเสี่ยงโรคผิวหนังจากสารเคมีอาชีพที่มีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังจากสารเคมีได้แก่
คนงานก่อสร้างที่ผสมปูนซีเมนต์
คนงานในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับโลหะ เครื่องหนัง ยางสีย้อมผ้า กาวพลาสติก เส้นใยแก้ว สีพ่น รวมทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเครื่อง
คนที่ต้องทำงานสัมผัสกับอุปกรณ์ที่ทำจากโลหะชุบนิกเกิล งานอุตสาหกรรมทำเครื่องหนัง ดอกไม้พลาสติก
เกษตรกรที่ต้องใช้ปุ๋ยสารกำจัดแมลงศัตรูพืช
วิธีป้องกันโรคผิวหนังจากสารเคมี
ผู้ที่ประกอบอาชีพดังกล่าวข้างต้นควรดูแลสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ควรระวังเป็นพิเศษ โดยสวมอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีก่อนเริ่มปฏิบัติงาน เช่น สวมถุงมือที่ทำจากวัสดุพีวีซีหรือยาง ใช้ผ้ากันเปื้อน หรือสวมชุดป้องกัน เป็นต้นโดยเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน หากมีอาการแพ้หรือมีผื่นคันขึ้นตามผิวหนังให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากโรคผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคือง ผื่นคัน และมักเป็นๆ หายๆ เกิดปัญหาทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย ดังนั้นแนวทางการป้องกันโรคผิวหนังที่เกิดจากสารเคมี ได้แก่ หยุดสัมผัสสิ่งที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือภูมิแพ้โดยเลือกใช้สารที่อันตรายน้อยกว่าหรือปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีโอกาสสัมผัสกับสารต่างๆให้น้อยที่สุด หมั่นทำความสะอาดพื้นบริเวณที่ทำงานเป็นประจำ และใช้ครีมทามือเพื่อป้องกันสารระคายเคือง ช่วยให้ทำความสะอาดมือง่ายขึ้น หรือใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทาผิวช่วยลดความแห้งตึงของผิวได้ หากมีบาดแผลต้องรีบทำความสะอาด และปิดแผลด้วยผ้าปิดแผลที่สะอาด
ถ้าหากมีการระคายเคืองหรือผดผื่นเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากกรณีที่ผิวหนังแห้ง แตก เป็นแผล หากติดเชื้อจะทำให้โรคผิวหนังที่เป็นอยู่ลุกลามมากยิ่งขึ้น
ข่าว 6
ชาวบ้านร้อง กลิ่นสารเคมีลอยทั่วหมู่บ้าน จนท.พบขยะพิษกว่า 1,000 ตัน
นอกจากนี้ ยังพบว่าภายในโรงงานมีเครื่องจักรกล มีสายพานลำเลียงขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิล ซึ่งมีทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พลาสติก และแผงไฟ ที่มีการคัดแยกแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างการเตรียมคัดแยกที่กองไว้และที่บรรจุในถุงรวมแล้วมากกว่าหนึ่งพันตัน โดยบางส่วนถูกนำมาบดอัด และทำเป็นเม็ดพลาสติก
โดย นายอารยะ เนตรวงษ์ หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี เผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมาได้เข้ามาทำการตรวจสอบที่โรงงานแห่งนี้แล้ว ซึ่งเดิมเคยมีการขออนุญาตประกอบกิจการฟอกหนัง ทำหนังเทียม และมีการคัดแยกขยะ แต่ตรวจสอบก็พบว่ามีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทำการรีไซเคิล ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน ซึ่งประกอบกิจการผิดประเภท และจะต้องทำการตรวจสอบเรื่องของการนำเข้ามาว่าถูกต้องหรือไม่ และมีจำนวนเท่าไหร่
ล่าสุด ได้มีคำสั่งให้หยุดดำเนินการไปแล้ว แต่มาวันนี้พบว่ายังมีการทำงานอยู่ ก็จะต้องดำเนินคดีต่อไปอีก เพราะฝ่าฝืนคำสั่ง ส่วนขยะพลาสติกที่พบนั้น กำลังให้ทางเจ้าของโรงงานนำเอกสารมาแสดง เบื้องต้น ยังไม่พบใบอนุญาตในการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามา และประกอบกิจการในส่วนของการบดอัดเม็ดพลาสติกโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงจะต้องแจ้งดำเนินคดีเพิ่มอีก
ข่าว 5
วิธีกำจัดแมลงหวี่แบบง่าย ๆ ไม่พึ่งสารเคมี
- กำจัดแมลงหวี่ด้วยเชือกงานนี้เราใช้เชือกสีขาวๆ เท่านั้น นำมาผูกกับราว หรือ ตามยาวลงมา แมลงหวี่จะบินไปเกาะ ไม่มาตัวเดียวด้วย ชวนกันมา จากนั้นก็นำน้ำมันเครื่อง น้ำมันก๊าซ หรือ น้ำมัน พืช น้ำมันหมู มาใส่ภาชนะ แล้วมาเคลือบที่เชือกเพื่อจับแมลงหวี่ มันจะติดบินไปใหนไม่ได้แล้ว
- ควันกาบมะพร้าว กับ เครือกระทกรกแมลงหวี่ไม่ชอบกลิ่นกาบมะพร้าว กับเครือกระทกรกที่ตากแห้งแล้วเอามามัดจุดไฟให้เกิดควัน จะหนีไปไม่กลับมาอีก
- กำจัดแมลงหวี่โดยใช้ใบหางนกยูงไล่แมลงหวี่แบบธรรมชาติ เพียงนำก้านของใบหางนกยูงมาใส่ไว้บนแจกันบนโต๊ะทำงาน หรือตรงที่มารบกวน แมลงหวี่นั้นไม่ชอบกลิ่นของใบหางนกยูง
- กำจัดแมลงหวี่ด้วยดอกดาวเรือง ให้เด็ดดอกดาวเรืองมาแช่ในน้ำ ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นก็เอาน้ำที่ได้มารดบริเวณที่มีแมลงหวี่ รับรองได้ว่าเพียงไม่กี่วันแมลงหวี่จะหนีหายไปจากที่นั่น พร้อมกำจัดทั้งไข่ของแมลงหวี่
- ที่มา:https://www.sanook.com/home/16981/
ข่าว 4
เครือข่ายคนอินทรีย์ฯ จุดธูปสาปแช่ง ร้องรัฐบาลแบนสารเคมีอันตราย
วันนี้(19 มิ.ย. 61) ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นายอำนาจ เกตุขาว แกนนำเครือข่ายคนอินทรีย์วิถีเมืองลุงและภาคีเครือข่ายร่วมเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชวัตถุอันตราย 3 ชนิดคือ พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส-ไกลโซเฟตอย่างไม่มีเงื่อนไข หลังจากปักหลักชุมนุมอยู่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2561 โดยระหว่างการเดินเท้ากลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการนำเชือกมาแขวนคอ พร้อมจุดธูปทำพิธีสาปแช่งหน่วยงานที่อนุญาตนำให้ใช้สารดังกล่าว
โดยเสนอ 3 ข้อที่เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีดังนี้
1. ขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการตามมติ 5 กระทรวงหลักและมิติกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 15 ก.พ. 2561 แบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ภายในเดือน ธ.ค. 2562 และมีแนวทางชัดเจนในการจำกัดการใช้ไกลโฟเซตอย่างเข้มงวด โดยไม่ใช้ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ผลิตอาหาร
2. ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงพิษภัยของสารเคมีในระบบการผลิตอาหารดังกล่าวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการโดยทันทีไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการศึกษาตามที่ รมว.กษ. เสนอ เพราะการตั้งกรรมการเป็นเพียงเกมการถ่วงเวลาที่คนทั้งประเทศรับรู้ มิต้องพูดถึงกรรมการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบรรษัทสารเคมี ซึ่งมีมติไม่แบนสารเคมีไปแล้ว เมื่อ 23 พ.ค. 2561 การตั้งกรรมการจึงเป็นเกมเพื่อประโยชน์ของบริษัทเท่านั้น ยังไม่นับรวมว่ามีมติ 5 กระทรวงออกมาแล้ว ซึ่งฐานะและความศักดิ์สิทธิ์เหนือกรรมการที่ รมว.กษ.เสนอตั้งมา
1. ขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายดำเนินการตามมติ 5 กระทรวงหลักและมิติกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 15 ก.พ. 2561 แบนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ภายในเดือน ธ.ค. 2562 และมีแนวทางชัดเจนในการจำกัดการใช้ไกลโฟเซตอย่างเข้มงวด โดยไม่ใช้ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ผลิตอาหาร
2. ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงพิษภัยของสารเคมีในระบบการผลิตอาหารดังกล่าวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการโดยทันทีไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการศึกษาตามที่ รมว.กษ. เสนอ เพราะการตั้งกรรมการเป็นเพียงเกมการถ่วงเวลาที่คนทั้งประเทศรับรู้ มิต้องพูดถึงกรรมการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบรรษัทสารเคมี ซึ่งมีมติไม่แบนสารเคมีไปแล้ว เมื่อ 23 พ.ค. 2561 การตั้งกรรมการจึงเป็นเกมเพื่อประโยชน์ของบริษัทเท่านั้น ยังไม่นับรวมว่ามีมติ 5 กระทรวงออกมาแล้ว ซึ่งฐานะและความศักดิ์สิทธิ์เหนือกรรมการที่ รมว.กษ.เสนอตั้งมา
ข่าว 3
หนุ่มคลั่ง บุกทุบห้องสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลบางแสนพังเละ หวิดดับคาสารเคมี
เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปควบคุมตัวแต่เข้าไปไม่ได้ เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องเก็บสารเคมีซึ่งมีกลิ่นแรงมากไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ชายคนดังกล่าวนอนนิ่งอยู่ข้างในห้องเกรงจะเสียชีวิต เพราะสารเคมีมีกลิ่นแรงมาก รปภ.จึงจะพยายามเข้าไปช่วย จนกระทั่งชายคนดังกล่าวพยายามเดินออกมาและนอนอยู่หน้าห้อง หัวหน้า รปภ.จึงพยายามเข้าไปเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งชายคนดังกล่าวยอมออกมาจากห้อง ชายคนดังกล่าวมีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง มีบาดแผลที่แขนและมือ จากการสอบถามทราบว่าชื่อนายพิทักษ์ อายุ 26 ปี เป็นคนจังหวัดหรองบัวลำภู มาทำงานก่อสร้าง รปภ.จึงรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาล ม.บูรพาต่อไป
ข่าว 2
พบสารเคมีรั่ว ซอยกรุงเทพกรีฑา 35 เจ้าหน้าเร่งตรวจสอบ
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุพบสารเคมีถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ บริเวณหน้า บริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ตรงข้ามซอย
กรุงเทพกรีฑา 35 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง
กรุงเทพกรีฑา 35 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง ดับเพลิงหัวหมาก และห้วยขวางรุดที่เกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องตรวจวัดสารเคมีเพื่อตรวจสอบ พบเป็นสารเคมีรั่วไหลออกมากจากบริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ลงไปที่บริเวณบ่อระบายน้ำด้านหน้าบริษัทจำนวน 3 บ่อ ทำให้น้ำในบ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ลักษณะของน้ำเป็นสีชมพู และบ่อที่ 3
ลักษณะเป็นสีดำมีคราบน้ำมันปะปน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชนิดของสารเคมีดังกล่าว และป้องกันสารเคมีรั่วไหลลงสู่คลองสาธารณะ ทั้งนี้ ได้มีการกั้นบริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุและห้ามประชาชนเข้าใกล้ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบเป็นสาร Kerosene ลักษณะเป็นของเหลวไวไฟ มีคุณสมบัติกัดกร่อน pH5 กระจายตัวในท่ออระบายน้ำหน้าโรงงานประมาณ 200 เมตร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใช้กระดาษซับสารที่อยู่บริเวณผิวหน้าและตักใส่ถุง และใช้สารสลายคราบไขมันฉีดพ่น เพื่อกำจัดคราบสารเคมี
วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561
ข่าว 1
แนะวิธีล้างผักให้สะอาด ลดสารเคมีตกค้าง
1.การล้างด้วยวิธีแช่ผักในน้ำส้มสายชู วิธีนี้ให้เตรียมน้ำสายชูที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5% ของกรดน้ำส้ม นำมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 : 10 ส่วน แล้วจึงนำผักมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกรอบหนึ่ง จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 60-84%
2.การล้างด้วยน้ำยาล้างผัก การแช่ผักในน้ำยาล้างผักที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไป ให้เลือกใช้ที่มีความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร และนำผักหรือผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-70% แต่วิธีนี้ควรต้องระวังด้วยเนื่องจากน้ำยาล้างผักอาจจะประกอบด้วยสารเคมีบางชนิดซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อผักได้
3.การล้างผักโดยให้น้ำไหลผ่าน โดยเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ นำมาใส่ในตะกร้าหรือตะแกรงโปร่ง แล้วเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ระหว่างล้างให้ใช้มือช่วยคลี่ใบผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้ไปด้วยประมาณ 2 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-63%
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)